บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ชี้แจงการปรับอัตราค่าบริการส่งจดหมาย ซึ่งเป็นการปรับอัตราค่าบริการครั้งแรกในรอบ 18 ปี โดยเป็นการปรับราคาเฉพาะบริการจดหมายในประเทศเท่านั้นคือ จดหมายประเภทซองและจดหมายประเภทหีบห่อ
การส่งจดหมายประเภทซองพิกัดแรก น้ำหนักไม่เกิน 10 กรัม ยังคงไว้ที่ 3 บาทเช่นเดิม ส่วนจดหมายประเภทซองที่น้ำหนักเกิน 10 กรัม และประเภทหีบห่อ จำเป็นต้องปรับราคาให้สอดรับกับสภาวะเศรษฐกิจและต้นทุน เริ่มตั้งแต่วันที่ 6 กรกฎาคม 2565 ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผู้ใช้บริการไปรษณีย์ลงทะเบียน
โดยจดหมายประเภทซองจะเพิ่มราว 5-10 บาท ส่วนจดหมายประเภทหีบห่อ ซึ่งแต่ก่อนคิดในอัตราเดียวกัน แต่ตอนนี้จะแยกออกมา โดยเคาะราคา 30-55 บาท จดหมายประเภทนี้ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มพ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์ ซึ่งแน่นอนว่าอาจทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ธุรกิจขนส่งแข่งราคาแรงเกินไป ‘ไปรษณีย์ไทย’ กางกลยุทธ์ใหม่ ต้องการเป็น ‘มากกว่าผู้ให้บริการขนส่ง’ เร่งเจาะตลาด Blue Ocean
- จากธุรกิจอาหารสู่สมรภูมิโลจิสติกส์อันดุเดือด ‘ประพัฒน์ เสียงจันทร์’ ขุมพลังใหม่ของ Kerry Express ที่จะเข้ามาปั้น ‘คน’ ให้แข็งแรงขึ้น
แต่อย่างไรก็ตาม ไปรษณีย์ไทยมีโปรโมชันบริการ EMS ที่ช่วยแบ่งเบาภาระของผู้ใช้บริการและต้นทุนผู้ประกอบการ โดยส่ง EMS วันจันทร์-เสาร์ ค่าส่งเริ่มต้น 25 บาท และพิเศษ วันอาทิตย์ค่าส่งเริ่มต้น 19 บาท
เชื่อว่าเหตุผลที่ทำให้ไปรษณีย์ไทยต้องขึ้นราคา ส่วนหนึ่งมาจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะค่าน้ำมัน ตลอดจนการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่ดุเดือดอย่างยิ่งในเรื่องราคา จนทำให้ปีที่ผ่านมาไปรษณีย์ไทยขาดทุนหลัก ‘พันล้านบาท’
- ปี 2562 รายได้ 27,405 ล้านบาท กำไร 619 ล้านบาท
- ปี 2563 รายได้ 24,211 ล้านบาท กำไร 385 ล้านบาท
- ปี 2564 รายได้ 21,734 ล้านบาท ขาดทุน 1,624 ล้านบาท
สิ่งที่ต้องจับตาว่าปี 2565 ไปรษณีย์ไทยจะเป็นอย่างไร เพราะอย่างเช่น Kerry Express ยังถูกประเมินว่าปีนี้จะขาดทุนถึง 3 ไตรมาส และกลับมามีกำไรในไตรมาสที่ 4 เลยทีเดียว
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP